[vc_row][vc_column][vc_column_text]คุณผู้ชายเคยรู้สึกลำบากใจในการเลือกน้ำหอมบ้างหรือเปล่า วันนี้เรามี 5 กลิ่นน้ำหอมมาให้คุณเลือกซื้อในขวดต่อไป

รูปลักษณ์การแต่งกายภายนอกเป็นสิ่งแรกๆ ที่ทำให้เรียกความสนใจจากคนรอบข้าง แต่ถ้าหากมีบางสิ่งบางอย่างดึงดูดความสนใจให้คนเข้าใกล้คุณ ที่มันนอกเหนือจากการมองเห็นรูปลักษณ์แล้วล่ะก็ คงเป็นสิ่งที่ผู้ชายอย่างเราๆ ต้องการอย่างแน่นอน ผมกำลังหมายถึง กลิ่นหอมๆ ครับ การปรุงแต่งภายนอกที่มองไม่เห็นแต่ก็ยังสามารถสัมผัสได้ วันนี้ Pepper มี 5 กลิ่นน้ำหอมมาแนะนำให้คุณผู้ชายได้ทดลองใช้ รับรองได้ครับว่านี่คือ 5 กลิ่นน้ำหอมที่ดึงดูดใจเพศตรงข้ามมากที่สุด

1. Prada L’Homme

หลังจากที่ห่างหายจากการออกผลิตภัณฑ์น้ำหอมมานาน Prada ก็เปิดตัวน้ำหอมผู้ชายกลิ่นใหม่ ที่นำเสนอออกมาในบรรจุภัณฑ์ Saffiano leather ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์นี้ เปิดตัวได้ไม่นานก็ได้รับการยกย่องจาก Jeremy Fragrance reviewer น้ำหอมชื่อดังยกย่องให้เป็น 1 ในน้ำหอมทีควรมีและควรเก็บไว้ในปีนี้ L’Homme มีกลิ่น eau de cologne แบบคลาสสิกมีกลิ่นแบบไอริส ดอกไม้แห้งอ่อนๆ ที่ผสมผสานเข้าด้วยกัน แล้วทำให้มีลักษณะของกลิ่นหอมที่โปร่งสบายสดชื่น สะอาด แต่มีความท้าทายเย้ายวนให้เข้าใกล้ มันเป็นกลิ่นหอมที่สมบูรณ์แบบเหมาะที่จะใช้ในงานราตรีกลางคืน และกลิ่นติดทนนานถึง 5 ชั่วโมงเลยครับ

ราคาขนาด 100 ml. ประมาณ 4,000 บาท

2. Tobacco Oud by Tom Ford


ทอม ฟอร์ด คือดีไซน์หนุ่มมือดีและเป็นผู้ให้ไอเดียกับน้ำหอมตัวใหม่ตัวนี้ TO เป็นน้ำหอมที่มาในแบบดาร์กๆ หน่อยครับ มีกลิ่นที่ซับซ้อน อารมณ์แบบสุขุม ลึกลับ เย้ายวน กลิ่นจะออกไปทางแขกหน่อยๆ เพราะมีส่วนผสมของไม้กฤษณา กลิ่นลักษณะนี้เหมาะสำหรับใช้ออกงานกลางคืนออกไปในแนวนั่งดื่มในที่ๆ บรรยากาศฉ่ำๆ เป็นน้ำหอมที่ฉีดเพียงนิดเดียวกลิ่นจะฟุ้งกระจายเลยทีเดียว ด้วยคุณภาพคับแก้วสมกับที่ผลิตจากแบรนด์ชั้นดี TO ได้รับการยกย่องจากผู้ใช้ว่าคือน้ำหอมที่ถือได้ว่าได้รับการผสมผสานที่ดีเยี่ยม เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นแตกต่างกันในช่วงเวลาที่ต่างกันออกไป มันเป็นกลิ่นที่มีแบบฉบับเฉพาะตัวและเข้มข้นมาก ในชั่วโมงแรกกลิ่นฟุ้งเตะจมูกเลยทีเดียวถึงแม้ว่าคุณจะฉีดเพียงนิดเดียวก็ตาม หลังจากชั่วโมงแรกไปแล้ว คุณจะได้กลิ่นที่แท้จริงของมัน TO จะมีกลิ่นที่ติดทนนาน 8-12 ชม. เลยทีเดียวครับ ข้อเสียนิดเดียวอาจไม่เหมาะสำหรับคนที่มีผิวที่แพ้ง่าย และราคาสูงมากทีเดียวครับ

ราคาขนาด 100 ml ประมาณ 12,000 บาท

3. Christian Dior Sauvage


Sauvage เปิดตัวด้วยพรีเซนต์เตอร์อย่าง Johnny Depp ที่ต้องการจะบอกถึงความเป็นชายที่แข็งแรง แต่มีลักษณะที่เรียบง่ายดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ซึ่งสอดคล้องกับคนในยุคปัจจุบัน Dior Sauvage ได้รับแรงบันดาลใจจากความรู้สึกที่เป็นตัวของตัวเองยินดีกับสังคมที่เปิดกว้างให้คนรุ่นใหม่ มีอิสระเหมือนนกบินอยู่บนท้องฟ้าสีโอโซนแผ่ปกคลุมเหนือภูมิประเทศที่เป็นหินอ่อนสีขาวในพื้นที่เขตร้อน ความรู้สึกแบบนี้มันสะท้อนออกมาในรูปแพคเกจของขวดน้ำหอม สำหรับกลิ่นของ Sauvage ในช่วงเริ่มต้นเมื่อฉีดน้ำหอมกลิ่นนี้เข้าไปแล้ว จะมีกลิ่นสดชื่น คล้ายๆ กลิ่นมะกรูดสะอาดๆ ผ่านไปสักระยะจะรู้สึกว่านี่คือกลิ่นที่สะท้อนคนรุ่นใหม่ คือไม่ใช่กลิ่นฟุ้งรุนแรง คุณจะได้กลิ่นลาเวนเดอร์ดอกไม้บางๆ เบาๆ แต่ชัดเจนเพราะลักษณะที่เฉพาะตัวของมันเอง

ราคาขนาด 100 ml ประมาณ 4,000 บาท

4. Molecule 01


รูปลักษณ์ของแพคเกจที่ดูค่อนข้างเชย และไม่มีราคา แต่ความจริงแล้วกลิ่นของ Molecule 01 เป็นกลิ่นที่มีเสน่ห์ และเซ็กซี่ที่สุด สำหรับหนุ่มๆ ที่ไม่ชอบน้ำหอมกลิ่นแรงๆ หนักๆ ฟุ้งๆ ตัวนี้ตอบโจทย์คุณทุกอย่างเพราะมันเป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นบาง และเบามาก บางครั้งที่คุณฉีดไปแล้วอาจจะมีบางความรู้สึกที่ถามตัวเองขึ้นมาว่านี่เราฉีดน้ำหอมแล้วหรือยังเพราะกลิ่นที่บาง และอ่อน แต่คุณรู้หรือไม่ว่าด้วยกลิ่นที่อ่อนๆ นี่แหละเป็นที่จับใจของสาวๆ มากพอสมควร Molecule 01 เป็นกลิ่นน้ำหอมที่จะทำให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่า มันมีส่วนผสมของกลิ่นไม้จันทน์หอม ที่เมื่อคุณได้ลองใช้สักครั้ง รับรองว่าคนรอบข้างต้องเหลียวมองตามด้วยคำถามว่ากลิ่นหอมๆ เซ็กซี่แบบนี้คือกลิ่นอะไร แน่นอนว่ามันอาจไม่ได้เป็นที่ถูกใจสำหรับคนที่ชอบน้ำหอมกลิ่นหนักๆ และนี่เป็นหนึ่งในน้ำหอมไม่มีกี่ขวดที่คุณสามารถฉีดได้ในปริมาณมากๆ หรือจะเรียกว่าอาบเลยก็ได้ครับ เพราะอย่างที่บอกแล้วว่ามันไม่ใช่น้ำหอมกลิ่นแรงๆ ที่ผมรับรองว่าเป็นที่ถูกใจของหนุ่มๆ ที่รักในกลิ่นเบาๆ และสะอาดๆ ครับ

ราคาขนาด 100 ml ประมาณ 4,500 ่บาท

5. Acqua di Parma Cedro di Taormina


ด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ของขวดแก้วสีฟ้าใส ที่ต้องการสะท้อนความสดใสในช่วง Summer และฝาปิดขวดที่ออกแบบให้ตัดกับสีขาวด้านหน้าขวดทำให้ Acqua di Parma Cedro di Taormina มีท่าทีเชิญชวนกลายๆ ให้เข้าไปลองสัมผัสกลิ่นของมัน เป็นน้ำหอมที่ได้แรงบันดาลใจมาจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สถานที่ที่โอบล้อมไปด้วยทิวทัศน์สวยงามเป็นเอกลักษณ์ เราจะได้กลิ่นของผลไม้จาก Citruss ผสานกับกลิ่นลาเวนเดอร์ซึ่งเป็นตัวตนของน้ำหอมกลิ่นนี้ที่ต้องการจะสื่อถึงความสดชื่นอย่างสง่างามและภูมิฐาน หลังจากครึ่งชั่วโมงแรกหลังการฉีดไปแล้วกลิ่นผลไม้ในช่วงแรกจะกลายเป็นกลิ่นดอกไม้อ่อนๆ ที่จะช่วยกระตุ้นให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นติดทนนาน และราคาไม่แพงเลยครับ

ราคาขนาด 75 ml. ประมาณ 2,800 บาท

5 กลิ่นที่เลือกมาให้นี้น่าจะพอเป็นไอเดียนะครับ ความถูกใจของแต่ละคนนั้นบรรทัดฐานไม่เท่ากันแต่ผมเชื่อว่าใน 5 กลิ่นที่เลือกมาให้นี้จะต้องมีอย่างน้อยโดนใจคุณบ้างสักขวด

ที่มา :sanook

[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][/vc_column][/vc_row]

ใส่ความเห็น